"สารสกัดเมล็ดองุ่น ป้องกันเส้นเลือดแตก และยังช่วยลดความดันโลหิต"
สารสกัดเมล็ดองุ่นกับสมอง
สมอง เป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุดในร่างกายเมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับสมอง ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บภาวะสมองขาดเลือด หรือภาวะสมองฝ่อ ล้วนแล้วแต่มีผลดดยตรงต่อร่างกาย จิตใจ และบุคลิกภาพของเจ้าของสมองด้วยกันทั้งสิ้น
สมองของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ หรือโรคความจำเสื่อมจะมีคราบสีเหลืองที่มีชื่อว่า เบต้า อะมิลอยดื พลัค (Beta-amyloid plague) เกาะติดอยู่ ซึ่งเป็นโปรตีนสารพิษชนิดหนึ่ง ต้นเหตุของการทำลายเนื้อสมอง บทความซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Alzheimer's Disease ในเดือนกันยายน 2009 แจ้งว่าการรับประทานสารสกัดเมล็ดองุ่นอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ จะลดโอกาสการเกิดเบต้า อะมิลอยด์ พลัค นี้ได้
สารสกัดเมล็ดองุ่นกับโรคหัวใจ และหลอดเลือด
ในสารสกัดเมล็ดองุ่น มีสารสำคัญมากมาย เช่นสารกลุ่มโพลีฟีนอล (Polyphenol) ซึ่งรวมสารเรสเวอราทรัล (Resveratrol) ฟีนอลลิค แอซิด (Phenolic Acid) แอนโทไซยานิน (Anthocyanins) และฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) วารสารการแพทย์ Journal of Gerontology : Biological Sciences ในเดือนตุลาคม 2008 กล่าวถึง ผลในการปกป้องหัวใจ และ หลอดเลือดของสารสกัดเมล็ดองุ่น ในแง่การลด แอลดีแอล (LDL) ซึ่งเป็นโคเลสเตอรอลตัวร้าย ลดการแข็งตัวของเลือด ลดโอกาสเกิดหลอดเลือดอุดตัน ปรับจังหวะการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ ป้องกันเส้นเลือดตีบโดยการส่งสัญญาณเคมีระหว่างเซลล์ ปรับสมดุลไขมันในเลือดและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
สถิติพบว่า กลุ่มประชากรที่มีการดื่มไวน์แดงอย่างสม่ำเสมอในชีวิตประจำวัน มีอัตราการเกิดโรคหัวใจต่ำกว่ากลุ่มประชากรที่ไม่ดื่ม ถึงแม้ว่าจะมีการรับประทานอาหารไขมันสูงก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งสมมุติฐานว่าการบริโภคองุ่น ผลิตภัณฑ์สกัดจากเนื้อ และเมล็ดองุ่นอย่างเช่น ไวน์แดง ที่มีการหมักองุ่นทั้งลูก (ขณะที่การหมักไวน์ขาว จะเอาส่วนที่เป็นเมล็ดออก) จะช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากความเสื่อม เช่น โรคหัวใจ และหลอดเลือดได้ต่อมาได้มีการทำงานวิจัยมากมาย เพื่อสนับสนุน และพิสูจน์สมมุติฐานนี้ โดยเป็นการทำวิจัยในหนูทดลองเป็นหลัก พบว่าหนูที่บริโภคสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ภายใน 48 ชั่วโมง จะมีค่าความต้านทานที่ผนังหลอดเลือดสูงขึ้นถึง 2 เท่า ซึ่งหมายความว่า ผนังหลอดเลือดยืดหยุ่น และแข็งแรงขึ้นเป็น 2 เท่า สารสกัดเมล็ดองุ่น จึงมีจุดเด่นด้านการบริโภคเพื่อป้องกันเส้นเลือดแตก
นอกจากค่าความต้านทานของผนังหลอดเลือดที่เพิ่มขึ้นแล้ว นักวิทยาศาสตร์พบว่า สารสกัดจากเมล็ดองุ่นยังช่วยลดความดันโลหิต นักวิทยาศาสตร์ได้ออกแบบการทดลอง โดยแบ่งหนูทดลองที่ป่วยด้วยภาวะความดันโลหิตสูงออกเป็น 3 กลุ่ม หนูกลุ่มที่ 1 บริโภคผงผลองุ่น หนูกลุ่มที่ 2 บริโภคยาหลอก และหนูที่ 3 บริโภคยาลดความดันโลหิต จากนั้นให้หนูทดลองทั้งสามกลุ่ม รับปรทานอาหารที่มีเกลือสูงใช้เวลาทดลอง 18 สัปดาห์ หลังจาก 18 สัปดาห์พบว่าในหนูทดลองกลุ่มที่บริโภคผงผลองุ่น มีค่าความดันโลหิตลดลง ค่าการอักเสบลดลง หัวใจทำงานดีขึ้น กล้ามเนื้อหัวใจเสียหายน้อยลง เปรียบเทียบกับหนูกลุ่มที่รับประทานยาหลอก ส่วนหนูกลุ่มที่ได้รับยาลดความดันโลหิตมีความดันโลหิตลดลง แต่ค่าการอักเสบไม่ลดลง หัวใจมีประสิทธิภาพลดลงหลังการบริโภคอาหารที่มีเกลือสูง
TDA Health & Beauty Vol.22
|